เที่ยวประหยัด ณ เกาะสีชัง



สถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเรานักท่องเที่ยวมักแวะเวียนกันไป  ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถไปเช้ากลับเย็นได้ และเป็นเกาะที่มีบรรยากาศท้องถิ่นของชาวประมงได้อย่างครบครัน  เราถึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันที่พวกเราหาแหล่งเที่ยวประหยัดจึงมีชื่อเกาะสีชังติดอยู่ในรายชื่อที่ถูกนำเสนอขึ้นมาตลอดเวลา   และเมื่อวันเดินทางมาถึงจึงรู้ว่าคนไปเกาะสีชังเยอะมาก ถือว่าที่เที่ยวประหยัดยอดฮิตของประเทศไทยก็ว่าได้
เราออกจากบ้านกันแต่เช้าตั้งแต่ตี 5 เลยละครับ เพื่อให้ทันเรือรอบแรกตอน 7.00 น คณะเราใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์(ทางหลวงหมายเลข 7) พอออกจากมอเตอร์เวย์ตรงที่ป้ายชี้ว่าบางแสน แล้วเข้าถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าไปทางพัทยา จะเห็นป้ายเลี้ยวขวาไปเกาะลอย ให้เลี้ยวเข้าไปหาที่จอด ซึ่งมีรถจอดเยอะมาก แล้วเราก็ซื้อตั๋วเรือคนละ 40 บาทเพื่อข้ามมาเกาะสีชัง  เป็นค่าตั๋วที่ไม่แพงเลยทีเดียว  จากเกาะลอยมาถึงเกาะสีชังใช้เวลาประมาณ 45 นาที และ เรือจะแวะส่งคนที่เกาะมะขามใหญ่สักประเดี๋ยวแล้วค่อยมุ่งหน้ามาส่งนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือเทวววงศ์ ซึ่งอยู่ฝากตะวันออกของเกาะ  หมายความว่าอย่างไรหรือ ก็หมายความว่าเราต้องจ้างรถแถวท่าเรือนั้นเดินทางกันอีก มีทั้งรถสกายแล็บพาเที่ยว ถ้าชั่วโมงๆละ 30 บาท ถ้าเหมาวันๆละ 250 บาท และถ้าค้างคืนราคา 300 บาทแถมหาที่พักให้ด้วย  โปรโมชั่นสุดท้ายต้องตาต้องใจพวกเรามากเพราะมาคราวนี้เรามีเวลาอยู่หลายวัน  และจะอยู่ค้างคืนที่นี่ เราเลยส่งสาวน้อยต่อรองเหมาพาเที่ยว  พร้อมหาที่พักไปในตัว   แม้ว่าที่เกาะสีชังนี้จะมีรีสอร์ทมากมายสวยๆดีๆราคาหลากหลายก็ตาม แต่เราก็ยังเน้นเที่ยวประหยัดเพื่อรักษาเงินค่าครองชีพที่มีอยู่เหมือนเดิม   เราตระเวนหาจนมาเจอที่พัก “เกาะสีชัง ริมทะเลรีสอร์ท” ราคาก็ยังโอเคอยู่ แต่มันน่ารักดีนะ”  นั่นคือคำตัดสินสุดท้ายที่ให้เราปักหลักที่นี่
แต่อยากบอกว่าเพราะที่พักนี้ไม่ไกลพระราชวังจุฑาธุชราชฐาน ที่เราเดินเรื่อยๆเข้าไปเที่ยวชมวัง โบราณสถานสะพานอัษฎางค์ ที่สวยงาม และ สักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5ได้ด้วยต่างหาก  ทำให้เรามีเวลาใช้วันที่เหลือไปช่องเขาขาด  ไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ และมณฑปรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่   และเหลือเวลากินลมชมทะเลเที่ยวประหยัดบนเกาะสีชัง อ่านหนังสือเพลินๆสบายใจพักผ่อนเต็มที่  เก็บแรงไว้มาสู้รบปรบมือกับงานมากมายในกรุงเทพต่อไป